top of page
 
ข้อบังคับ
สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว พ.ศ.2559
 
.................................................................................................................................................................
          โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.2545 ระเบียบ ประกาศกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
          อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.2545 ประกอบกับมติที่ประชุมใหญ่สามัญปี 2558 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559
 
หมวดที่ 1
ข้อความทั่วไป
          ข้อ 1   ข้อบังคับนี้เรียกว่า "ข้อบังคับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว พ.ศ.2559"
          ข้อ 2   ข้อบังคับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ประจำท้องที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง รับจดทะเบียนเป็นต้นไป
          ข้อ 3   ให้ยกเลิกข้อบังคับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว พ.ศ.2553 บรรดาระเบียบ ประกาศ คำสั่ง หลักเกณฑ์ วิธีการปฏิบัติ และอื่นๆที่ขัดหรือแย้ง กับข้อบังคับนี้ให้ใช้ข้อบังคับนี้แทน
          ข้อ 4   สำนักงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว ตั้งอยู่ ณ สำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด เลขที่ 9 หมู่ 10 ถนนพระยาตรัง ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี รหัสไปรษณีย์ 22000
          ข้อ 5   สมาคมเปิดทำงานในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. ถึงเวลา 16.30 น. หยุดทำงานในวันเสาร์ วันอาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์หรือวันหยุดตามมติของคณะรัฐมนตรีที่ประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ
          ข้อ 6   เครื่องหมายของสมาคมมีลักษณะดังนี้
                      รูปวงกลมระหว่างเส้นขอบวงนอกและวงในมีชื่อสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว และอักษรย่อ ฌสคค. ตรงกลางดวงตรามีรูปและอักษรที่สื่อความหมาย ดังนี้
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
รูปตราสมาคม
                      - กระต่ายในดวงจันทร์ สัญลักษณ์ของจังหวัดจันทบุรี ลักษณะก้าวกระโดด คือ ความเจริญก้าวหน้าของสมาคม
                      - บ้าน หมายถึง ครอบครัว
                      - รูปคน 5 คน หมายถึง บิดา มารดา บุตร สามี ภรรยา
                      - มือ หมายถึง การอุ้มชูสงเคราะห์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
                      - ๒๕๕๓ หมายถึง ปีที่ก่อตั้งสมาคม ฌสคค.
          ข้อ 7   ในข้อบังคับนี้
                      (1) "สมาคม" หมายความว่า สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว
                      (2) "สมาชิก" หมายความว่า สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว
                      (3) "คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการดำเนินการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว
                      (4) "กรรมการ" หมายความว่า กรรมการดำเนินการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว
                      (5) "นายกสมาคม" หมายความว่า นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว
                      (6) "เงินค่าสมัคร" หมายความว่า เงินค่าสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว ที่ต้องชำระให้กับสมาคมครั้งเดียวเมื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก
                      (7) "เงินค่าบำรุง" หมายความว่า เงินค่าบำรุงสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว ที่สมาชิกต้องชำระให้กับสมาคมเป็นรายปี
                      (8) "เงินสงเคราะห์" หมายความว่า เงินที่สมาชิกช่วยเหลือเป็นค่าจัดการศพ และสงเคราะห์ครอบครัวของสมาชิกซึ่งถึงแก่ความตาย รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว
                      (9) "เงินสงเคราะห์ล่วงหน้า" หมายความว่า เงินที่เรียกเก็บไว้ล่วงหน้าเพื่อสำรองจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์ เมื่อสมาชิกคนใดคนหนึ่งถึงแก่ความตาย
                      (10) "ปีทางบัญชี" หมายความว่า ระยะเวลาดำเนินกิจการของสมาคมในรอบปีหนึ่งๆ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม ของแต่ละปี
                      (11) "นายทะเบียน" หมายความว่า นายทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ประจำท้องที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง
                      (12) "นายทะเบียนกลาง" หมายความว่า ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
                      (13) "ปลัดกระทรวง" หมายความว่า ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
 
หมวดที่ 2
วัตถุประสงค์
          ข้อ 8   สมาคมมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันในการจัดการศพ และสงเคราะห์ครอบครัวของสมาชิกซึ่งถึงแก่ความตายด้วยเงินสงเคราะห์ โดยมิได้ประสงค์จะหากำไรหรือรายได้เพื่อแบ่งปันกัน ซึ่งการตายนี้รวมถึงการสาบสูญตามคำสั่งศาลด้วย
          ข้อ 9   สมาคมมีรายได้จาก
                      (1) เงินค่าสมัคร
                      (2) เงินค่าบำรุง
                      (3) เงินที่หักจากเงินสงเคราะห์เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายของสมาคมตามข้อบังคับนี้
                      (4) ดอกเบี้ยเงินฝาก
                      (5) เงินบริจาค
                      (6) เงินอื่นๆ ที่ได้จากการดำเนินการของสมาคม
 
หมวดที่ 3
วิธีการรับสมาชิกและการขาดจากสมาชิกภาพ
          ข้อ 10 ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม ต้องยื่นใบสมัครตามแบบของสมาคม ณ ที่ตั้งสำนักงานของสมาคม ในเวลาเปิดทำการ
          ข้อ 11 สมาชิกมี 3 ประเภท ดังนี้
                      11.1 สมาชิกสามัญ
                      11.2 สมาชิกวิสามัญ
                      11.3 สมาชิกสมทบ
          ข้อ 12 ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกสมาคมจะต้องมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
                      12.1 สมาชิกสามัญ มีคุณสมบัติดังนี้
                              (1) เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด
                              (2) มีอายุไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์
                      สมาชิกสามัญ มีสิทธิ์นำคู่สมรส บิดา มารดา และบุตรมาสมัครเป็นสมาชิกวิสามัญได้
                      12.2 สมาชิกวิสามัญ มีคุณสมบัติดังนี้
                              (1) บุตรอายุตั้งแต่ยี่สิบปีบริบูรณ์ หรือ บรรลุนิติภาวะโดยสมบูรณ์ตามกฏหมาย และอายุไม่เกิน
                                   สามสิบห้าปีบริบูรณ์
                              (2) คู่สมรส ต้องมีอายุไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์
                              (3) บิดา - มารดา ต้องมีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์
                      12.3 สมาชิกสมทบ มีคุณสมบัติดังนี้
                              (1) เป็นสมาชิกประเภทสมทบของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด โดยชำระค่าหุ้นสหกรณ์
                                   ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัดแล้วครบหกเดือน
                              (2) มีอายุไม่เกินห้าสิบปีบริบูรณ์
                     สมาชิกสมทบไม่มีสิทธิ์นำคู่สมรส บิดา มารดา และบุตรมาสมัครเป็นสมาชิกสมาคมได้
          ข้อ 13 นอกจากคุณสมบัติตามข้อ 12 ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
                      (1) ไม่เป็นผู้วิกลจริต หรือ จิตฟั่นเฟือน
                      (2) ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเป็นคนไร้ความสามารถ
                      (3) มีความประพฤติดี และยินยอมปฏิบัติตามข้อบังคับของสมาคม
                      (4) ไม่เป็นโรคร้ายแรงดังนี้
                            - ภูมิคุ้มกันบกพร่อง (โรคเอดส์)
                            - มะเร็งระยะสุดท้าย
                            - โรคติดต่อร้ายแรง
                            - วัณโรคระยะแพร่กระจาย
                            - โรคติดยาเสพติด
          ข้อ 14 โรคประจำตัวอื่นๆ
                      ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการดำเนินการมีมติ และ ประกาศรับเป็นสมาชิกตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้เฉพาะราย
          ข้อ 15 สมาชิกที่เคยลาออกหรือถูกให้ออกจากการเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันที่คณะกรรมการมีมติให้ลาออก หรือ ให้ออก จึงมีสิทธิ์สมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ได้และต้องบริจาคเงินเท่าจำนวนเงินสงเคราะห์ตามจำนวนสมาชิกที่ถึงแก่กรรม นับแต่ลาออก หรือ ให้ออก จนถึงวันสมัครเข้าใหม่
          ข้อ 16 การรับสมัครสมาชิกกรณีพิเศษ มีวัตถุประสงค์ เพื่อคงจำนวนสมาชิกให้อยู่ในระดับที่ทำให้สมาคมมีความมั่นคง ให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการดำเนินการในการประกาศรับสมัครเป็นคราวๆ ไป
          ข้อ 17 ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกต้องนำเอกสารหลักฐานประกอบการสมัคร ดังต่อไปนี้
                      (1) สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการหรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นๆ ที่แสดงความเป็นตัวตนของผู้สมัคร มีเลขประจำตัวประชาชนสิบสามหลัก หรือเป็นบัตรที่ทางราชการออกให้
                      (2) สำเนาทะเบียนบ้าน
                      (3) สำเนาใบสำคัญการสมรส (กรณีคู่สมรส)
                      (4) ใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งจากสถานพยาบาลของรัฐตามกฏหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
                      ต้องยื่นใบสมัครตามแบบฟอร์มของสมาคมพร้อมชำระเงิน ณ ที่ทำการของสมาคมในวันเปิดทำงาน โดยมีสมาชิกของสมาคมไม่น้อยกว่าหนึ่งคน หรือกรรมการของสมาคม หรือนายกสมาคมรับรองคุณสมบัติ ผู้ใด
ยื่นเอกสารอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความอันควรแจ้งให้สมาคมทราบเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิในการสมัครเป็นสมาชิก หากปรากฏมีหลักฐานภายหลังว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิก ถือว่าผู้นั้นไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่สมัครและไม่ได้รับการสงเคราะห์ตามข้อบังคับนี้ สมาคมจะไม่คืนเงินค่าสมัครและเงินที่สมาชิกจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์ ไม่ว่ากรณีใดๆ เว้นแต่เงินสงเคราะห์ล่วงหน้าเท่าที่สมาชิกไม่ตกอยู่ในความผูกพันที่ต้องจ่ายเงินสงเคราะห์ให้กับสมาคม
          ข้อ 18 สมาชิกภาพของผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกจะสมบูรณ์เริ่มตั้งแต่เวลาที่คณะกรรมการของสมาคม หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการอนุมัติให้เข้าเป็นสมาชิก และผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ชำระเงินค่าสมัครและชำระเงินต่างๆ ตามข้อบังคับนี้แล้ว
          ข้อ 19 สมาคมจะออกบัตรประจำตัวสมาชิกแสดงการเป็นสมาชิก ตามแบบของสมาคมให้แก่สมาชิกทุกคน
          ข้อ 20 ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกต้องระบุชื่อผู้จัดการศพ และผู้มีสิทธิ์รับเงินสงเคราะห์ซึ่งต้องเป็นบุคคลในครอบครัวตามเงื่อนไขข้อ 28 (1-6) ไว้ให้ชัดแจ้งในใบสมัคร ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการศพและผู้รับเงินสงเคราะห์ในภายหลังสมาชิกต้องแจ้งให้สมาคมทราบโดยมิชักช้า ในกรณีที่สมาคมเป็นผู้จัดการศพสมาคมต้องจัดการศพให้เหมาะสมแก่ฐานานุรูปและศาสนาของสมาชิกผู้นั้น
          ข้อ 21 สมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลงในกรณีต่อไปนี้
                      (1) ถึงแก่ความตาย
                      (2) ลาออก (โดยให้ทำหนังสือตามแบบที่สมาคมกำหนดและมีผลตั้งแต่วันที่ยื่นเอกสาร)
                      (3) คณะกรรมการมีมติให้พ้นจากสมาชิก ซึ่งสมาคมได้ออกหนังสือแจ้งเตือนแล้วสามครั้งในรอบ
หนึ่งเดือน และคณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควรให้พ้นจากสมาชิก
 
หมวดที่ 4
เงินค่าสมัคร  เงินค่าบำรุง  และเงินสงเคราะห์
          ข้อ  22 ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมต้องชำระเงินดังต่อไปนี้
                      (1) เงินค่าสมัครเข้าเป็นสมาชิก เก็บครั้งเดียวเป็นเงิน 100 บาท (หนึ่งร้อยบาทถ้วน)
                      (2) เงินค่าบำรุง ปีละ 50 บาท (ห้าสิบบาทถ้วน)
                      (3) เงินสงเคราะห์ล่วงหน้า เป็นเงิน 600 บาท (หกร้อยบาทถ้วน)
                      (4) เงินบริจาคตามข้อ 15 (ถ้ามี)
          ข้อ  23 เมื่อสมาชิกของสมาคมคนใดคนหนึ่งถึงแก่ความตาย สมาชิกทุกคนมีหน้าที่ต้องชำระเงินสงเคราะห์เพื่อเป็นค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ให้แก่ครอบครัวของสมาชิกรายที่ตายจำนวนเงินศพละ 30 บาท (สามสิบบาทถ้วน)
          ข้อ  24 การชำระเงินค่าบำรุง เงินสงเคราะห์ของสมาชิกให้ชำระโดยหักเงินจากต้นสังกัด ในกรณีที่ไม่มีต้นสังกัดให้ชำระด้วยวิธีอื่น 
          ในการรับเงินทุกประเภทให้สมาคมออกใบเสร็จเก็บไว้เป็นหลักฐาน
 
หมวดที่ 5
วิธีการจ่ายเงินค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัว
          ข้อ  25 การจ่ายเงินค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัวสมาชิก สมาคมจะจ่ายให้เท่ากับจำนวนที่เรียกเก็บได้จากสมาชิกในแต่ละงวดตามมติคณะกรรมการ
          ข้อ  26 เงินสงเคราะห์ที่เรียกเก็บได้จากสมาชิกตามข้อ 25 สมาคมแบ่งจ่าย ดังนี้
                      (1) หักไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของสมาคม  จำนวนร้อยละหกของเงินสงเคราะห์ที่เรียกเก็บได้
                     (2) จ่ายเป็นค่าจัดการศพเป็นเงินจำนวน 20% ของเงินสงเคราะห์ที่เรียกเก็บได้
                     (3) จ่ายเงินสงเคราะห์ครอบครัวให้แก่ผู้มีสิทธิ์รับเงินภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่สมาคมได้จ่ายเงินค่าจัดการศพ  และจะจ่ายเมื่อมีการสอบสวนผู้มีสิทธิ์รับเงิน
                     (4) การจ่ายเงินสงเคราะห์แก่ครอบครัวสมาชิกที่ถึงแก่ความตาย กรณีไม่ได้ระบุสิทธิ์หรือระบุสิทธิ์หลายราย  สมาคมจะจ่ายเงินสงเคราะห์ให้ผู้มีสิทธิ์คนละเท่าๆ กัน การจ่ายเงินค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์รายใดมีปัญหาให้นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการและให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด จึงไม่ถือว่าเงินนี้เป็นมรดกของสมาชิกผู้ถึงแก่ความตาย ผู้มีสิทธิ์รับเงินโดยธรรมของสมาชิกที่ถึงแก่ความตาย ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหรือถือเป็นเหตุฟ้องร้องเรียกเงินดังกล่าวได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
          ข้อ  27 การขอรับเงินค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัวให้เป็นไปตามระเบียบของสมาคม
          ข้อ 28 ในกรณีที่สมาชิกสมาคมถึงแก่ความตายให้สมาคมจ่ายค่าจัดการศพ และเงินสงเคราะห์ให้แก่บุคคลที่สมาชิกได้ระบุไว้ในใบสมัคร ดังต่อไปนี้
                      (1) สามี  ภริยา  บุตร  บิดา  มารดา
                      (2) พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
                      (3) พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน
                      (4) ปู่  ย่า  ตา  ยาย
                      (5) ลุง  ป้า  น้า  อา
                      (6) ผู้อุปการะเลี้ยงดูหรือผู้อยู่ในอุปการะเลี้ยงดู
                     ในกรณีที่ไม่มีบุคคลที่สมาชิกระบุไว้ในใบสมัคร  หรือมีบุคคลที่ระบุไว้ในใบสมัครแต่ไม่อาจจัดการตามเจตนาของสมาชิกได้  หรือในกรณีที่สมาชิกไม่ได้ระบุบุคคลใดไว้ในใบสมัคร  บุคคลตาม  (1) – (6)  อาจยื่นคำร้องต่อสมาคม  เพื่อขอเป็นผู้จัดการศพก็ได้
                     เมื่อสมาคมรับคำร้องตามวรรคสองและได้พิจารณาแล้วเห็นว่าบุคคลนั้นสามารถเป็นผู้จัดการศพของสมาชิกได้จริง  ให้สมาคมจ่ายเงินค่าจัดการศพให้แก่บุคคลนั้นแต่ถ้าสมาคมเห็นว่าบุคคลนั้นไม่สามารถเป็นผู้จัดการศพได้  หรือไม่มีบุคคลตามวรรคหนึ่งยื่นคำร้องภายในเวลาตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ  ให้สมาคมจัดการศพให้แก่สมาชิกที่ถึงแก่ความตายตามสมควรแก่ฐานานุรูปและประเพณีทางศาสนาของสมาชิกนั้น
                     เมื่อได้ปฏิบัติตามวรรคสามแล้ว ยังคงมีเงินค่าจัดการศพหรือค่าจัดการศพและสงเคราะห์ศพครอบครัวเหลืออยู่ ให้สมาคมจ่ายเงินส่วนที่เหลืออยู่ให้แก่บุคคลที่สมาชิกได้ระบุไว้ในใบสมัคร แต่ถ้าไม่มีบุคคลที่สมาชิกระบุไว้ในใบสมัคร ให้สมาคมจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่บุคคลในวรรคหนึ่งตามลำดับก่อนหลังโดยผู้อยู่ลำดับก่อนย่อมตัดสิทธิผู้อยู่ลำดับหลัง ถ้ามีผู้อยู่ในลำดับเดียวกันหลายคน ให้สมาคมแบ่งเงินค่าจัดการศพหรือค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวที่เหลืออยู่ให้แก่ทุกคนในสัดส่วนที่เท่ากัน หากไม่อาจแบ่งเงินให้แก่บุคคลใดได้ให้เงินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน
 
หมวดที่  6
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
          ข้อ 29 สมาชิกมีสิทธิดังต่อไปนี้
                     (1) แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจการของสมาคมต่อคณะกรรมการ และมีสิทธิเรียกร้องให้คณะกรรมการกระทำหรืองดเว้นกระทำ เพื่อประโยชน์ของสมาคมหรือป้องกันความเสียหายอันเกิดขึ้นแก่สมาคม
                     (2) เข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม และมีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนทุกครั้ง
                     (3) ขอตรวจสอบบัญชีหรือเอกสารของสมาคม เพื่อทราบการดำเนินกิจการของสมาคมในวันเปิดทำการของสมาคม
                     (4) ทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อการใดการหนึ่งเมื่อใดก็ได้  โดยมีจำนวนสมาชิกอื่นร่วมด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดหรือไม่น้อยกว่าห้าสิบคน
                     (5) ร้องขอต่อนายทะเบียนให้สั่งเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ ที่ได้ลงมติฝ่าฝืนกฎหมาย หรือข้อบังคับของสมาคมภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ประชุมใหญ่ลงมติ
                     (6) ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนขอให้เลิกสมาคมพร้อมด้วยเหตุผลประกอบคำขอ โดยมีสมาชิกอื่นร่วมด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด
          ข้อ 30 สมาชิกมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
                     (1) ปฏิบัติตาม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง และประกาศของสมาคม
                     (2) ต้องชำระเงินสงเคราะห์ภายในห้าวันนับแต่วันสิ้นเดือน
                     (3) เก็บรักษาหนังสือสำคัญการเป็นสมาชิกของสมาคมไว้ ถ้าหายต้องรีบแจ้ง เพื่อขอใบแทนใหม่จากสมาคม
                      (4) การย้ายที่อยู่ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล แก้ไขวัน เดือน ปีเกิดของสมาชิก ให้ยื่นคำร้องหรือแจ้งต่อสมาคมภายในสามสิบวัน นับแต่วันเปลี่ยนแปลง ย้ายหรือแก้ไข 
                      (5) แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ เมื่อต้องการเปลี่ยนตัวบุคคลตามที่แสดง ความจำนงไว้ในใบสมัครตามข้อ 20 โดยยื่นคำร้องต่อนายกสมาคม
 
หมวดที่  7
คณะกรรมการและการดำเนินกิจการ
          ข้อ 31 ให้มีคณะกรรมการของสมาคมจำนวนไม่เกินยี่สิบคน ซึ่งต้องเป็นสมาชิกสมาคม ประกอบด้วย
คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด โดยที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด สรรหา และได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคม จำนวน
ไม่เกินสี่คน เจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด หรือรองผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด ที่ได้รับมอบหมาย จำนวน หนึ่งคน และกรรมการจากสมาชิกของสมาคม ซึ่งเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีจำนวนสิบห้าคน
          ข้อ  32  คณะกรรมการสมาคม  ตามข้อ 31 เลือกกันเองเป็นนายกสมาคม และอุปนายก เลขานุการ เหรัญญิก และตำแหน่งอื่นๆ ตามที่เห็นสมควร เป็นผู้ดำเนินกิจการของสมาคม และเป็นตัวแทนของสมาคม ในกิจการเกี่ยวกับบุคคลภายนอก
          ข้อ  33  กรรมการของสมาคมไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง หรือประโยชน์อย่างอื่นทำนองเดียวกันจากสมาคม
เว้นแต่จะมีระเบียบกำหนดไว้
          ข้อ 34 คณะกรรมการชุดที่ออกตามวาระจะต้องปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามารับตำแหน่งแทนจึงจะพ้นจากหน้าที่
                     กรรมการของสมาคม ต้องมีคุณสมบัติตาม พ.ร.บ. การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.2545
                     กรรมการสมาคมมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี
                     กรรมการสมาคมจะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันไม่ได้ เว้นแต่ที่ประชุมใหญ่โดยมติสองในสามของผู้มาประชุมจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
                     ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระและได้มีการแต่งตั้งผู้อื่นเป็นกรรมการแทนให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
          ข้อ 35 การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการ กรรมการของสมาคมย่อมพ้นจากตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
                     (1) ครบกำหนดตามวาระ 
                     (2) ตาย
                     (3) ลาออก
                     (4) ขาดจากสมาชิกภาพ
                     (5) พ้นจากการเป็นกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี  จำกัด เจ้าหน้าที่สหกรณ์ หรือรองผู้จัดการสหกรณ์
                     ทั้งนี้ให้คงปฏิบัติหน้าที่กรรมการต่อไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนตัวกรรมการสมาคมจากที่ประชุมใหญ่และได้รับการจดทะเบียนกรรมการชุดใหม่จากนายทะเบียน
                     (6) คณะกรรมการสามในสี่มีมติให้ออก
                     (7) ที่ประชุมใหญ่มีมติให้ออก
                     (8) กระทำความผิดและถูกลงโทษตามกฎหมาย ว่าด้วยการฌาปนกิจสงเคราะห์ข้อใดข้อหนึ่ง
                     กรณีตำแหน่งกรรมการว่างลง เพราะเหตุไม่ใช่ออกตามวาระ หากตำแหน่งนั้นเป็นตำแหน่งนายกสมาคมและคณะกรรมการที่เหลือยังครบจำนวนขั้นต่ำตามข้อบังคับ คณะกรรมการอาจเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นนายกสมาคมก็ได้ และแจ้งให้สมาชิกและ นายทะเบียนทราบ
          ข้อ 36 ให้มีการประชุมคณะกรรมการอย่างน้อยเดือนละครั้ง เว้นแต่นายกสมาคมหรือกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจะเห็นสมควร
          ข้อ 37 คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการของสมาคมทุกประการ และ ให้หมายความรวมถึง
                     (1) จัดดำเนินกิจการของสมาคมตามข้อบังคับ  ตามมติของที่ประชุมใหญ่
                     (2) กำหนดอำนาจหน้าที่ของกรรมการแต่ละตำแหน่ง
                     (3) แต่งตั้งกรรมการคนใดคนหนึ่งให้ปฏิบัติหน้าที่แทนในตำแหน่งกรรมการที่
ว่างลง  ซึ่งยังไม่ได้เลือกตั้งแทน
                     (4) การใช้จ่ายเงินของสมาคมตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ และระเบียบของสมาคมที่วางไว้โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย  
                     (5) กำหนดระเบียบหรือประกาศต่างๆ โดยไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับของสมาคม
                     (6) ว่าจ้าง แต่งตั้ง และถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม
                     (7) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับกิจการของสมาคม 
                     (8) แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้ที่มีประสบการณ์ในกิจการของสมาคม เป็นที่ปรึกษาของสมาคม ส่วนจะมีจำนวนเท่าใดนั้น ให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการ
          ข้อ 38 ให้มีคณะกรรมการอำนวยการ ประกอบด้วย นายกสมาคม อุปนายก เหรัญญิก  นายทะเบียนและตำแหน่งอื่นที่คณะกรรมการแต่งตั้งและมอบหมายให้ทำหน้าที่กรรมการอำนวยการ  กรรมการอำนวยการมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบดังนี้
          นายกสมาคม
                     (1) ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคมให้เป็นไปด้วย
ความเรียบร้อย  ถูกต้องตามกฎหมาย  ข้อบังคับ  ระเบียบ  และวัตถุประสงค์ของสมาคม
                     (2) เป็นผู้แทนสมาคมหรือผู้แทนนิติบุคคลในการทำนิติกรรม  สัญญา
และการติดต่อกับบุคคลภายนอก
                     (3) เรียกประชุมคณะกรรมการและเป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการและการประชุมของสมาคม
                     (4) ปกครองบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ของสมาคม
                     (5) อนุมัติการดำเนินการ การเบิกจ่ายเงินตามข้อบังคับและระเบียบของสมาคม
                     (6) สั่งดำเนินการให้เป็นไปตามข้อบังคับ ระเบียบ มติที่ประชุมคณะกรรมการ คำสั่ง คำแนะนำของนายทะเบียนหรือผู้มีอำนาจในการตรวจสอบการดำเนินกิจการของสมาคม
                     (7) อื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
          อุปนายก
                     (1) ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการของสมาคม
                     (2) ปฏิบัติงานตามที่นายกสมาคมมอบหมาย
                     (3) ทำหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่อยู่หรือไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้
                     (4) ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่สมาคมมอบหมาย
          เลขานุการ
                     (1) กำกับ ควบคุม ดูแลและทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคม
                     (2) นัดการประชุมคณะกรรมการ การประชุมใหญ่ จดบันทึกการประชุม
 และเก็บรักษารายงานการประชุม
                     (3) ดำเนินการจดทะเบียนคณะกรรมการ จดทะเบียนแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับ รายงานทะเบียนสมาชิก บัญชีงบดุลต่อนายทะเบียน
                     (4) ปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคม
                     (5) ทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่างๆ ของสมาคม
                     (6) ปฏิบัติงานอื่นๆตามที่สมาคมมอบหมาย
          เหรัญญิก
                     (1) มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม
                     (2) จัดทำบัญชีรายได้ - รายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคม
                     (3) กำกับ ควบคุม ดูแลการจัดเก็บเงิน การเบิกจ่ายเงิน การนำเงินฝากธนาคาร การเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของสมาคม
                     (4) รักษาระเบียบการใช้จ่ายเงินของสมาคม การปรับปรุงแก้ไขระเบียบเกี่ยวกับการเงินของสมาคม
                     (5) เก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ทางการเงิน การบัญชีของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ
                     (6) รายงานฐานะทางการเงินและงบดุลของสมาคมต่อนายทะเบียน เมื่อสิ้นปีปฏิทินให้เสนอคณะกรรมการพิจารณาภายในหกสิบวัน และนำเสนอที่ประชุมใหญ่พิจารณาพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในร้อยสี่สิบวันวัน
                     (7) ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่สมาคมมอบหมาย
                     (8) รักษาระเบียบการใช้จ่ายเงินของสมาคมและรายงานจำนวนเงินที่มีอยู่ในธนาคารตามที่มีอยู่ในวันสิ้นเดือนมิถุนายนของทุกปีต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวัน นับแต่วันสิ้นเดือน
          นายทะเบียน
                     (1) จัดทำและรักษาทะเบียนสมาชิก ตลอดจนหลักฐานเอกสารต่างๆเกี่ยวกับทะเบียนของสมาชิก
                     (2) รายงานจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ณ วันสิ้นเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน ธันวาคม  ของทุกปีต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวัน นับแต่วันสิ้นเดือนนั้น
                     (3) ติดต่อประสานงานกับกรรมการประจำหน่วยหรือสมาชิกที่เกี่ยวข้องกับทะเบียนสมาชิก
                     (4) ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่สมาคมมอบหมาย
                     กรรมการตำแหน่งอื่นให้มีหน้าที่ตามที่นายกสมาคมหรือคณะกรรมการมอบหมาย
 
 
หมวดที่  8
การใช้จ่ายและการเก็บรักษาเงิน
          ข้อ 39 สมาคมจะใช้จ่ายเงินในการดำเนินกิจการ ดังนี้
                     (1) ค่าเบี้ยประชุม ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะและค่าเช่าที่พักของกรรมการ
                     (2) เงินเดือน ค่าจ้างและค่าล่วงเวลาของเจ้าหน้าที่สมาคม
                     (3) ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะและค่าเช่าที่พักของเจ้าหน้าที่สมาคม
                     (4) ค่าสมทบกองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จและค่าเครื่องแบบของเจ้าหน้าที่สมาคม
                     (5) ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการประชุมใหญ่
                     (6) ค่าลงทะเบียนในการเข้าร่วมประชุม อบรมและสัมมนาของกรรมการและเจ้าหน้าที่ของสมาคม
                     (7) ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อที่ดิน อาคารและครุภัณฑ์หรือการจัดจ้างก่อสร้างต่อเติมอาคารสำนักงานของสมาคม
                     (8) ค่าเช่าที่ดินและอาคารสำนักงานของสมาคม
                     (9) ค่าใช้จ่ายการจัดซื้อวัสดุ ค่าซ่อมแซม ค่าบำรุงรักษา และค่าเสื่อมราคา
                     (10) ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ได้แก่ ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ของสมาคม
                     (11) ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการดำเนินกิจการ
                     (12) ค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ทำบัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้สอบบัญชี ผู้ชำระบัญชี และค่าใช้จ่ายในการเลิกสมาคม
                     (13) ค่าพวงหรีดและค่าพิธีกรรมตามศาสนาของสมาชิกที่ถึงแก่ความตาย
                     (14) ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนกลาง
          ข้อ 40 ค่าใช้จ่ายตามข้อ 39 (1) (2) (3) (4) และ (13) ให้เป็นไปตามระเบียบของสมาคมโดยอนุมัติของที่ประชุมใหญ่และส่งให้นายทะเบียนพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในสามสิบวัน และเมื่อนายทะเบียนอนุมัติแล้วจึงจะถือปฏิบัติได้
          ข้อ 41 เงินทุกประเภทที่สมาคมได้รับต้องนำฝากธนาคารของรัฐหรือธนาคารพาณิชย์หรือสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด ในนามของสมาคม เหรัญญิกของสมาคมจะเก็บเงินสดไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินของสมาคมได้ไม่เกินครั้งละ  100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) นายกสมาคมโดยมติของคณะกรรมการสั่งจ่ายเงินของสมาคมได้ไม่เกิน  500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) หากจำนวนเงินค่าใช้จ่ายเกิน 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ในแต่ละรายการ ยกเว้นการจ่ายเงินสงเคราะห์
          ข้อ 42 การถอนเงินของสมาคมต้องกระทำในนามสมาคม การถอนเงินไม่ว่ากรณีใดๆต้องมีกรรมการสามในห้า ซึ่งได้แก่ นายกสมาคม อุปนายกสมาคม เหรัญญิก เลขานุการ ลงนามร่วมกันจึงจะถอนเงินฝากได้
          ข้อ 43 เงินหรือผลประโยชน์ของสมาคมที่ได้รับมา หรือมีผู้บริจาคด้วยศรัทธา หรือดอกผลที่เกิดจากการนำเงินฝากธนาคาร (ตามข้อ 41) ต้องตกเป็นของสมาคมทั้งสิ้น
          ข้อ 44 คณะกรรมการแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสม จำนวนไม่เกินสามคน เพื่อตรวจสอบบัญชีการเงินของสมาคม และรายงานผลการตรวจสอบต่อคณะกรรมการทราบทุกเดือนและทุกสิ้นปีบัญชี
          ข้อ 45 ให้คณะกรรมการทำบัญชีรายได้ รายจ่าย และบัญชีงบดุลตามแบบที่นายทะเบียนกลางกำหนดเสนอต่อที่ประชุมใหญ่เพื่ออนุมัติภายในร้อยยี่สิบวัน นับแต่วันสิ้นปีทางบัญชี และต้องส่งสำเนางบดุลที่มีคำรับรองว่าถูกต้อง  ต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่อนุมัติและต้องแสดงไว้ที่สำนักงานเพื่อสมาชิกและผู้มีส่วนได้เสียตรวจดูได้ด้วย
          ข้อ 46 หลักฐานเอกสารทางทะเบียน ทางการเงิน ทางบัญชีงบดุล สมาคมต้องเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่าสิบปี
          ข้อ 47 รายได้ของสมาคมมาจาก
                     (1) เงินค่าสมัครสมาชิก
                     (2) เงินค่าบำรุงประจำปี
                     (3) เงินที่หักจากเงินสงเคราะห์
                     (4) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้สมาคม
                     (5) ดอกผลอันเกิดจากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารของรัฐหรือธนาคารพาณิชย์หรือสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี  จำกัด
 
หมวดที่  9
การประชุมใหญ่
          ข้อ 48 คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ภายในร้อยยี่สิบวัน นับแต่วันสิ้นปีทางบัญชี และให้มีระเบียบวาระอย่างน้อย ดังนี้
                     (1) รับทราบรายงานกิจการในรอบปีที่ผ่านมา
                     (2) พิจารณาอนุมัติบัญชีรายได้ รายจ่าย และบัญชีงบดุล
                     (3) เลือกตั้งคณะกรรมการแทนคณะกรรมการเมื่อครบวาระตาม ข้อ 25 วรรคสาม
                     (4) พิจารณาวาระอื่นๆ
                     เพื่อการใดการหนึ่งซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควร  หรือสมาชิกที่มีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของสมาชิกทั้งหมดหรือไม่น้อยกว่าห้าสิบคน  จัดทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ  เมื่อใดก็ได้  
                     ในกรณีที่สมาชิกขอให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ ให้คณะกรรมการเรียกประชุมภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำร้อง
          ข้อ 49 การประชุมใหญ่ ต้องมีสมาชิกหรือผู้แทนสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดหรือไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนจึงจะเป็นองค์ประชุม
                     ถ้าในการประชุมนัดแรกสมาชิกหรือผู้แทนสมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุม หากการประชุมนั้นได้นัดโดยสมาชิกร้องขอให้เลิกประชุม ถ้าการประชุมนั้นมิใช่สมาชิกร้องขอให้
นัดประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่งภายในสามสิบวันการประชุมครั้งหลังนี้ต้องมีสมาชิกหรือผู้แทนสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดหรือไม่น้อยกว่าสามสิบคนก็ให้ถือว่าเป็นองค์ประชุม
                     ในการประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับและการเลิกสมาคม ต้องมีผู้มาประชุมตามวรรคหนึ่งเท่านั้น
          ข้อ 50 สมาชิกคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน การวินิจฉัยชี้ขาดให้ถือเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน  ให้ประธานที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด เว้นแต่กรณีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับและการเลิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของผู้มาประชุม
                     สมาชิกจะมอบฉันทะเป็นหนังสือให้ผู้อื่นซึ่งมิใช่เป็นสมาชิกมาประชุมใหญ่
และออกเสียงแทนตนก็ได้  ผู้รับมอบฉันทะคนหนึ่งรับมอบฉันทะได้คนเดียว
                     ในกรณีที่จะมีมติเรื่องใด ถ้าส่วนได้เสียของกรรมการหรือสมาชิกของสมาคม ผู้ใดขัดกับประโยชน์ได้เสียของสมาคม กรรมการหรือสมาชิกของสมาคมผู้นั้นจะออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้นมิได้
          ข้อ 51 คณะกรรมการจะต้องส่งหนังสือบอกกล่าวถึงวัน เวลา สถานที่ และระเบียบวาระของการประชุมใหญ่ไปให้สมาชิกทุกคนได้ทราบ ก่อนประชุมไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
          ข้อ 52 ให้นายกสมาคมเป็นประธานในที่ประชุม ถ้านายกสมาคมไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้อุปนายกสมาคมปฏิบัติหน้าที่แทน ถ้านายกสมาคม อุปนายกสมาคมไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการ คนใดคนหนึ่งขึ้นเป็นประธานในที่ประชุมคราวนั้น
          ข้อ 53 การออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่ กระทำได้ 2 วิธี คือ
                     (1) ออกเสียงลงคะแนนโดยเปิดเผย 
                     (2) ออกเสียงลงคะแนนลับ 
                     การนับคะแนน  ให้ที่ประชุมเลือกสมาชิกที่มาประชุมเป็นกรรมการนับคะแนนไม่น้อยกว่าสามคน
 
หมวดที่  10
การทะเบียน  การเงิน  และการบัญชี
          ข้อ 54 สมาคมต้องจัดให้มีทะเบียนสมาชิกตามแบบที่นายทะเบียนกลางกำหนด และให้เก็บรักษาทะเบียนดังกล่าวพร้อมทั้งหลักฐานและเอกสารที่ใช้ประกอบการลงทะเบียนไว้ที่สำนักงาน  
          ข้อ 55 สมาคมต้องส่งสำเนาทะเบียนสมาชิกที่มีอยู่ในวันครบเก้าสิบวันนับแต่วันจดทะเบียนให้แก่นายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันดังกล่าว และเมื่อสิ้นเดือนมีนาคม , มิถุนายน , กันยายน และธันวาคมของทุกปี สมาคมต้องส่งสำเนาทะเบียนสมาชิกที่เป็นอยู่ในวันสิ้นเดือนต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวัน นับแต่วันสิ้นเดือนนั้นๆ
          ข้อ 56 สมาคมต้องจัดให้มีสมุดชำระเงินประจำตัวสมาชิกให้แก่สมาชิก บัญชีชำระเงินประจำตัวสมาชิก บัญชีแสดงฐานะการเงิน และหลักฐานการรับจ่ายเงินตามแบบที่นายทะเบียนกลางกำหนด และต้องเก็บรักษาเอกสารประกอบบัญชีแสดงให้เห็นความถูกต้องแห่งบัญชีนั้นไว้ด้วย
 
หมวดที่  11
การแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับ
          ข้อ 57 การแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับจะกระทำได้แต่โดยมติของประชุมใหญ่เมื่อที่ประชุมใหญ่มีมติให้แก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อบังคับแล้ว คณะกรรมการต้องนำไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนภายในสิบสี่วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่มีมติ
          ข้อ 58 ในกรณีที่นายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนแก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อบังคับตามข้อ 57 ให้คณะกรรมการนัดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับอีกครั้งหนึ่งภายในสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งของนายทะเบียน ถ้าที่ประชุมใหญ่ยืนยันให้แก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับนั้นอยู่ ให้คณะกรรมการทำหนังสืออุทธรณ์ต่อปลัดกระทรวง โดยยื่นต่อนายทะเบียนภายในกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งจากนายทะเบียน คำวินิจฉัยของปลัดกระทรวงให้เป็นที่สุด
 
หมวดที่  12
การเลิกสมาคม และการชำระบัญชี
          ข้อ 59 สมาคมย่อมเลิกได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ดังต่อไปนี้
                     (1) ที่ประชุมใหญ่มีมติให้เลิก
                     (2) นายทะเบียนสั่งให้เลิกตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545
                     (3) ศาลสั่งให้เลิกตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.2545
          ข้อ 60 ในกรณีที่ได้รับคำสั่งจากนายทะเบียน ให้เลิกสมาคม ให้คณะกรรมการนัดประชุมกรรมการโดยด่วนเพื่อพิจารณาว่าสมควรเลิกสมาคม หรือมีทางแก้ไขประการใด ถ้าที่ประชุมมีมติโดยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดไม่สมควรเลิกและมีวิธีการที่จะแก้ไข ให้คณะกรรมการทำหนังสืออุทธรณ์ต่อปลัดกระทรวงโดยยื่นต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งจากนายทะเบียน
          ข้อ 61 เมื่อต้องเลิกสมาคม ให้คณะกรรมการจัดให้มีการชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  ว่าด้วยการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน  ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด โดยอนุโลม เว้นแต่พระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์จะกำหนดให้เป็นอย่างอื่น
          ข้อ 62 เมื่อชำระบัญชีแล้ว ถ้ามีทรัพย์สินของสมาคมเหลืออยู่เท่าใด สมาคมจะโอนให้แก่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อื่นหรือนิติบุคคลการกุศลอื่นตามที่ที่ประชุมใหญ่จะมีมติกำหนด
 
หมวดที่  13
บทเฉพาะกาล
          ข้อ 63 บรรดาระเบียบ ประกาศ คำสั่ง หลักเกณฑ์ วิธีการปฏิบัติ ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว ให้มีผลใช้บังคับได้ต่อไปหากไม่ขัดกับข้อบังคับนี้
                     เหตุผล ที่มีการยกร่างข้อบังคับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจันทบุรี จำกัด และครอบครัว พ.ศ.2559
                     1. เพื่อปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับทั้งฉบับให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นทั้งในด้านเนื้อหา สาระสำคัญ  สำนวนภาษาที่ใช้
                     2. เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.2545 กฎกระทรวง ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
                     3. เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและบริบทของสมาคม ทำให้การสงเคราะห์แก่สมาชิกสามารถเอื้อประโยชน์แก่สมาชิกมากขึ้น  และการบริหารจัดการของสมาคมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
                     4. เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไป
bottom of page